「CHANSOO」E N C H A N T E D Chapter 5

Chapter 5

 

โดคยองซูเหมือนผ้าหลากสี ที่โดนสาดสีทับเข้าไปอีก จากที่มันควรจะแค่สีสันฉูดฉาดไปนิดหน่อย แต่ก็ยังคงสวยงามอยู่ กลับกลายเป็นสกปรกเลอะเทอะไม่น่าดู เพราะสีสันที่มากเกินไป ผสมกันจนกลายเป็นสีที่ไม่น่ามอง

 

สีพวกนั้นก็คือเรื่องเซ็กส์

ทั้งที่มีติดตัวคยองซูอยู่แล้ว

และที่มาจากการสาดทับถมเข้าไปอีกโดยไม่สนใจสีเดิมที่มันเคยมีอยู่

โดยเหล่าคนที่เห็นแก่ตัวเองรอบๆตัวคยองซู

และหนึ่งในนั้น ก็คืออาอินซองด้วย….

 

ผมลงมานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวคนเดียว ผมทนนั่งรอคยองซูอยู่ข้างบนไม่ได้ ให้ผมอยากช่วยคยองซูแค่ไหน แต่จิตใจของผม มันก็ยังคงรับเรื่องแบบนี้ได้ยากอยู่ดี…

ผมทนที่จะรับรู้ว่า อาอินซองกับคยองซูกำลังใช้ห้องนอนของผมเป็นสถานที่ระบายอารมณ์ไม่ได้….

ผมเอามือปิดหน้าและเสยผมขึ้น ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่…

วันหนึ่งวันที่ผ่านไป ราวกับผ่านไปเป็นอาทิตย์ ผมได้รับรู้เรื่องราวมากมาย และมีความรู้สึกมากมายทับถมอยู่บนหัวใจของผม

 

โดยเฉพาะแววตาที่เว้าวอน ขอร้อง

ดวงตาแดงก่ำตอนที่ร้องไห้เพราะทนปวดใจไม่ไหว

แววตาเบื่อโลก ตอนที่คอยย้ำเตือนตัวเองว่า ตนเองเป็นคนที่น่ารังเกียจและทำให้น่าอับอายแค่ไหน

มันมากมายเหลือเกิน ที่จะทำให้ผม หยุดคิดถึงเรื่องของคยองซูไม่ได้…

ผมควรต้องทำยังไง… ในเมื่อคยองซูเอง ก็มีความสุขมากแล้ว เพียงแค่ได้อยู่กับอาอินซอง….

 

แต่ผมว่า มันไม่ควรจะมีความสุขอยู่แค่เท่านั้น….

 

อาอินซองเดินลงมาข้างล่าง พร้อมแต่งตัวใส่สูท คยองซูไม่ได้ตามลงมาด้วย

“ทำไมถึงพาคยองซูมาที่นี่….”

“ผมแค่ไม่อยากให้เขาอยู่ในห้องนั้น…คอนโดฯของอาทำให้คยองซูเครียด…”

“ก็เห็นอยู่ว่าเขาเป็นแบบนี้…”

ผมเหลือบตามองอาที่คิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้ผมคล้อยตามได้ ผมคิดว่าเขารู้อยู่แก่ใจว่าการทำแบบนี้กับคยองซูเหมือนกับกักขังเขาไว้

“อารู้ใช่ไหมครับว่าอาการที่คยองซูเป็นมันค่อยๆรักษาได้….”

ทันทีที่ผมพูด โจอินซอง อาของผม เขานิ่งเงียบทันที

“แล้วอาก็ยังไปบอกคยองซูว่า มันรักษาไม่ได้… อาเห็นแก่ตัวได้ถึงขนาดใช้วิธีนี้เพื่อเก็บคยองซูเอาไว้อย่างนี้เหรอครับ?”

ผมถามคำถามนี้ออกมาจากใจ ผมเจ็บปวดแทนคยองซู….

“ฉันหวังดีกับเขา…”

“อาแค่เก็บเขาเอาไว้ตอนที่อารู้สึกเบื่อที่บ้านต่างหาก…ถ้าอาห่วงเขาจริง รักเขาจริง อาต้องอยากให้เขาหายจากอาการแบบนี้สิครับ”

“เธอไม่เข้าใจหรอกชานยอล….”

“อาเองก็นึกถึงหน้าน้าจินฮีกับราฮีเอาไว้เยอะๆนะครับ ส่วนคยองซู ผมขอดูแลคยองซูไปก่อน”

“เขาไม่ยอมอยู่กับเธอตลอดไปหรอก…เขารักฉัน”

“ผมไม่ได้ต้องการให้เขามาอยู่กับผมตลอดไปครับ ผมเพียงแค่ อยากให้เขามีความสุข…ความสุขที่เป็นความสุขอย่างแท้จริงที่มาจากข้างใน…”

ผมลุกออกจากโต๊ะกินข้าว และเดินขึ้นข้างบนทันที ผมทิ้งให้อาอินซองคิดทบทวนตัวเอง

ผมรู้ว่าผมกำลังแหย่ขาเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่ผมทนเห็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้….

 

ผมบิดลูกบิดประตูเข้าไปในห้อง….คยองซูยังคงนอนอยู่บนเตียงของผม หมดเรี่ยวหมดแรง…

“ฉันขอนอนอีกซักพักนึงก็จะกลับคอนโดฯแล้ว…”คยองซูพูดเสียงเบา ผมเดินไปนั่งลงข้างๆคยองซูแล้วส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เป็นไร…คืนนี้นอนที่นี่เถอะ…”

.

.

.

“รู้มั้ย? ทำไมฉันถึงไม่ยอมมีอะไรกับนาย”

จู่ๆปาร์คชานยอลก็พูดขึ้น เขานั่งมองผมอยู่ที่ปลายเตียง ในขณะที่ผมยังนอนอยู่บนที่นอนของเขา และยังไม่หลับ…

“นายอาจไม่ชอบฉัน หรือไม่ก็มีเหตุผลส่วนตัว…อาจจะเกี่ยวกับคนรักของนายที่ผ่านมา…”

ผมตะแคงตัวหันไปมองเขา ใบหน้าด้านข้างที่สมส่วนดูดี ดูภายนอกก็เป็นผู้ชายธรรมดา ไม่น่าจะรัวังเรื่องเซ็กส์มากขนาดนี้เลย…เขายิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของผม

“ใช่…ฉันไปเห็นแฟนฉันมีอะไรกับเจ้านายของเขา ที่สนามแข่งรถ หลังจากฉันแข่งเสร็จ ฉันทำอะไรไม่ถูกเลย…และทุกครั้งที่จะได้มีอะไรกับใคร อย่างที่นายเกือบจะทำกับฉันหลายครั้ง ภาพของแฟนฉันก็จะผุดขึ้นมา ทำให้ฉันเจ็บปวด…”

“แต่ถ้าไม่มีเรื่องของแฟนนาย นายจะนอนกับฉันหรือเปล่า?”

จู่ๆผมก็ถามมันออกมา และนึกอิจฉาแฟนของชานยอล ที่ทำให้ชานยอลเป็นทุกข์ และหยุดคิดถึงไม่ได้ อิจฉาที่คนๆนั้นสามารถทำตัวให้เป็นคนสำคัญในความคิดของชานยอลได้ ในขณะที่เขา ไม่เคยทำกับใครได้ ทุกคนที่เข้ามาหาเขา คิดอยู่เพียงเรื่องเดียว…และหลังจากนั้น โดคยองซูก็จะหมดความสำคัญไป…

“ถ้าไม่มีเรื่องนั้น ฉันก็คงไม่ได้เจอกับนาย…”

“ฉันอิจฉาแฟนนายจริงๆ เขาทำให้นายหวนคิดถึงเขาได้ตลอดเวลา แม้เรื่องที่ทำให้คิดถึงมันไม่ใช่เรื่องดีก็ตาม…”

“อย่าคิดเหมือนตัวเองไร้ค่าในความคิดของคนอื่นแบบนั้นสิ…”

ผมมองตาเขา…ผมรู้ว่าเขามองผมด้วยความสงสาร และผมก็ซาบซึ้งใจ แต่ความรักที่ผมมีต่อคุณอินซอง มันมากมายจนมองข้ามความหวังดีของเขาได้ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เพียงแค่รู้สึกอยากขึ้นมา ผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมรู้สึกขอโทษเขาจากใจ มีความรู้สึกมากมายที่ผมรู้สึกกับเขา ผสมปนเปกันจนแยกไม่ออก

“คยองซู…อาการของนาย มันรักษาหรือบรรเทาลงได้ ขอแค่นายยอมรับมัน และเข้มแข็งต่อสู้มัน…”

“ฉันทำไม่ไหวหรอก….ฉันเคยพยายามแล้ว สุดท้าย ก็จบลงที่ฉันมีความอยากมากกว่าปกติ แล้วมันก็เละเทะไปหมด…”

“ฉันจะอยู่ข้างๆนาย แต่นายก็ต้องพยายามด้วย เรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องผิดเลย…แค่นายต้องคุมมันให้ได้

เขาหันมามองตาผม สายตาที่ผมคิดว่านั่นคือความจริงใจที่สุด ไม่มีความอยากได้อะไรจากตัวผม ไม่มีอะไรเลยนอกจากความหวังดี…

“ฉันจะลองดู….”

.

.

.

ผมพาคยองซูไปคุยกับแม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น แม่เป็นจิตแพทย์ และให้คำแนะนำอย่างดีกับคยองซู การที่จะเล่าเรื่องอาการของคยองซู ทำให้จำเป็นต้องเล่าเรื่องอาอินซองออกมาด้วย นั่นทำให้แม่ตกใจไม่น้อยเลย…

“จินฮีไม่รู้ใช่ไหมชานยอล?”

“ผมคิดว่ายังไม่รู้ครับแม่…”

แม่หันมามองคยองซูแล้วยิ้มอ่อนโยนให้

“คยองซูจ้ะ ถ้าเธอไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เธอจะต้องพยายามมากกว่านี้นะ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเธอ เพื่ออินซองด้วย ตอนนี้เขาไม่รู้ตัวหรอก ว่ากำลังทำอะไรลงไป แต่เราจะรอจนเกิดเรื่องเศร้าขึ้นมาก็ไม่ได้…เธอมาอยู่ที่นี่นะจ้ะ อยู่กับชานยอล ค่อยๆรักษากันไป ยังไงซักวันมันต้องดีขึ้นแน่นอนจ้ะ”

ผมมองเห็นดวงตากลมโตนั่นแดงก่ำ แต่ริมฝีปากยิ้มอย่างมีความสุข นี่คงเป็นครั้งแรกที่ความรู้สึกเหมือนมีหลักให้เกาะ หลังจากลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทรที่มองไม่เห็นแผ่นดินมานาน

 

หลังจากคุยถึงการรักษาทั้งหมด ผมสัมผัสได้ว่า คยองซูกำลังมีความหวัง และผมดีใจที่เขายังคงมีความหวังในใจอยู่ ผมภาวนาให้อาอินซองยังไม่ว่างพอที่จะมายุ่งวุ่นวาย ผมจะพยายามรักษาเขาให้หายดี แม้ไม่หายสนิท แต่ก็ขอให้เขาอยู่บนสังคมนี้ได้ เหมือนเช่นคนอื่นๆทั่วไป

“ผมพาคยองซูออกไปเที่ยวนะแม่”

“ดูแลคยองซูดีๆนะ”แม่ย้ำ ผมยิ้มทะเล้นให้แม่ก่อนจะหันมาหาคยองซู แล้วจับมือคยองซูขึ้นมาจูง คยองซูมองหน้าผมอยู่ครู่นึง ก่อนจะยอมให้ผมจูงมือเขาเดินออกไปจากบ้าน

“ไม่เห็นจะต้องจูงมือเลย….”คยองซูพูด

“เอาน่า~”ผมลากเสียงพูด “ไปหากาแฟกินกันดีกว่า นั่งกินขนม หรือจะดูหนังก็ได้นะ”

“กินกาแฟก่อน แล้วค่อยไปหาหนังดูก็ได้ ฉันไม่ได้ไปไหนแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย”

“ปาร์คชานยอลคนนี้นี่ไง จะพาไป~”

 

ผมและคยองซูขี่มอเตอร์ไซค์ไปย่านคึกคัก หาร้านกาแฟน่านั่งซักร้านหนึ่ง อย่างที่ผมเคยบอก คยองซูในเวลาปกตินั้น น่าทะนุถนอม แม้เขาจะทำตัวเข้มแข็ง แต่อาจเพราะตัวเล็ก และดวงตากลมโตนั่นทำให้ยิ่งดูน่าเอ็นดู ผมเหลือบมองหน้าคยองซูบ่อยๆ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องไม่ดีเรื่องอื่นๆที่คยองซูเคยทำเลย ถ้าแลกกัน เมื่อรักษาจนทุเลาหรือหายดี คยองซูก็เป็นคนนึงที่ควรค่าแก่การมอบความรักให้อย่างจริงใจ

จะมานั่งเสียใจอะไรกับเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ดูสิ แบคฮยอนไม่เคยโทรกลับมาหานายเลย…ชานยอล

ผมส่ายหน้าแล้วเลิกคิดถึงเรื่องแบคฮยอน มองคยองซูที่นั่งบิคุกกี้กินแล้วเลอะมุมปากก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปเช็ดให้

“กินเลอะเป็นเด็กเลย”

“ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย….”ถึงจะพูดแบบเอาแต่ใจอย่างนั้น คยองซูก็ยังอมยิ้มอยู่

“ถึงไม่ใช่เด็ก ฉันก็ต้องดูแล~”

ในขณะที่เรากำลังพูดคุยหัวเราะไปกับเรื่องสัพเพเหระ ผมชวนคยองซูคุยไปเรื่อยเปื่อย จนโทรศัพท์ของผมสั่นอยู่บนโต๊ะ และแสดงชื่อคนที่ผมคิดว่า เขาคงไม่โทรหาผมอีกแล้ว

 

โทรศัพท์ของชานยอลสั่นครืดอยู่บนโต๊ะ ชานยอลไม่ได้รับทันที เขามองมัน และแววตาเปลี่ยนไป คนที่โทรมาคนนั้นคงเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ในใจชานยอล แววตาเขาเศร้าลงจริงๆ

เขาใช้เวลาตัดสินใจนานพอสมควร กว่าจะรับโทรศัพท์สายนี้ ซึ่งผมพยายามทำเป็นไม่สนใจ ในที่สุดชานยอลก็รับสาย แต่ชานยอลไม่พูดอะไรเลย เหมือนจะรอฟังในสิ่งที่ฝ่ายโทรมาจะพูด

“ฉันอยู่ร้านนั้น…นายนั่งโต๊ะไหน?”

ผมโกหกตัวเองไม่ได้หรอกว่าสายตาพยายามมองไปทั่วร้าน เพื่อมองหาคนที่ชานยอลพูดด้วยอยู่ คนๆนั้นคงเป็นคนที่ทำให้ชานยอลเจ็บปวด แต่ผมเข้าใจชานยอลนะ ถึงเจ็บ แต่มันก็ยากที่เราจะตัดใจไปจากเขาได้…

ชานยอลวางสาย และมองผม

“รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันมา…”ชานยอลลุกขึ้น แล้วเดินไปโต๊ะใกล้ๆนี้เอง มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจนัก ก็แน่ล่ะ นอกใจแฟนนี่หน่า….

โต๊ะอยู่ห่างพอที่จะไม่ได้ยินสองคนนั้นคุยกัน แต่ก็มองเห็นสีหน้าของทั้งสองชัดเจน

ในตอนแรก แฟนของชานยอลคนนั้น ดูไม่ค่อยสบายใจเลยที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องพูดออกมา แต่เมื่อตัดสินใจพูด และชานยอลก็ฟัง แถมยิ้มให้ ผมไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง แต่แฟนของชานยอลมีสีหน้าที่ดีขึ้น แทบจะยิ้มอย่างมีความสุขด้วยซ้ำไป…..

บางทีอีกไม่นาน ชานยอลก็คงคืนดีกับแฟน และก็คงมีเวลาว่างไม่พอจะสนใจเรา…

ผมลุกขึ้นจากโต๊ะแล้ววางค่ากาแฟเอาไว้ บางทีผมอาจจะหวังมากไป ใครมันจะมาทุ่มเทกับซากเดนชีวิตอย่างผมได้…ผมมันไม่มีค่านี่

.

.

.

“ไม่โกรธฉันเหรอชานยอล…”

“ไม่หรอก…ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก คนๆนั้นคือคนที่นายรู้จักมาตั้งแต่เด็ก และเขากับนายป่วยทางจิตทั้งคู่ ฉันก็ไม่โกรธ อันที่จริงฉันมีคนที่ต้องดูแลอยู่ เลยไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนายเลย…รักษาให้หายนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันได้”

“ขอบใจนะชานยอล…”แบคฮยอนยิ้มให้ผมอย่างสบายใจ ผมเองก็สบายใจที่เขามาอธิบายและพูดให้ฟัง มันทำให้ผมรู้ด้วยว่า ในตอนนี้ สิ่งใดสำคัญกับผมมากที่สุด ยิ่งกว่าที่เคยห่วงแบคฮยอน

ผมหันกลับไปมองที่โต๊ะ แต่ที่โต๊ะไม่มีใครอยู่แล้ว

คยองซูหายไปไหน??

“ไว้เจอกันวันหลังนะแบคฮยอน”

แบคฮยอนโบกมือลาผมอย่างงุนงงเมื่อเห็นผมดูรีบร้อนลุกขึ้นมา และวิ่งออกไปจากร้านกาแฟทันที

 

ผมไม่น่าปล่อยคยองซูเอาไว้คนเดียวเลย เขาอาจจะกำลังคิดมาก คิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมมองซ้ายมองขวา โชคดีที่ผมได้เปรียบเรื่องความสูง ผมจึงมองรอบๆได้ง่าย แต่คยองซูอาจจะขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ผมอาจจะมองหาไม่เห็น ถ้ายังเดินหาอยู่แบบนี้

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคยองซู แต่คยองซูก็ไม่รับสาย ผมจึงส่งข้อความไปหาเขา

คยองซู รับโทรศัพท์หน่อยสิ มีอะไรก็ถามฉัน คุยกับฉันสิคยองซู อย่าหายไปแบบนี้ ฉันขอร้อง’

           

ผมโทรหาอีกครั้ง แต่คยองซูก็ยังคงไม่รับสาย

คยองซูจะไปที่ไหนได้….

คิดสิปาร์คชานยอล คิด!

 

=============================================

 

“เขาโทรหานายตั้งหลายรอบแล้วนะคยองซู อ๊ะ…”จงอินพูดในขณะที่เขากำลังขยับสะโพกเข้าออกกระแทกแก่นกายเข้าไปยังช่องทางด้านหลังที่ถูกหนุนให้สูงขึ้นด้วยหมอน แสงจากโทรศัพท์เบนความสนใจของจงอินให้หันไปมอง แต่คยองซูที่นอนครางอื้ออึงอยู่ในลำคอกลับไม่สนใจ ทั้งยังเกี่ยวคอของจงอินลงมาให้รับจูบจากเขาอีก….

จงอินก็ยิ่งสนองตอบกอดรัดร่างเล็กเอาไว้แล้วกระแทกซ้ำระรัวเข้าไปจนเสียงร้องครางสั่นไปตามจังหวะกระแทก คยองซูหนีชานยอลกลับมาที่อพาร์ทเมนท์และโทรเรียกให้จงอินมาหา…

 

ผมรู้สึกโดดเดี่ยวอีกครั้ง เหมือนความสุขผ่านมาเพียงชั่ววูบเดียว ต่อไปชานยอลคงไปตามทางของเขา

และคงไม่มีเวลามาสนใจผมอีก….

 

จงอินก้มลงจูบผม แต่ผมกำลังคิดถึงเรื่องของชานยอลอยู่

 

ปังๆๆๆ!

 

เสียงเคาะประตูห้องนอนของผมดังมาก คุณอินซองงั้นเหรอ? ไหนเขามีงานด่วนอีกหลายวันกว่าจะปลีกตัวมาได้ไงล่ะ…

“โดคยองซู! ไหนนายบอกว่าจะรักษาให้หาย หยุดสิ่งที่ทำอยู่เดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นฉันจะพังประตูเข้าไป!”

เสียงทุ้มที่ตะโกนนั่นเป็นเสียงของชานยอล เขามีกุญแจคอนโดฯที่นี่….

“นายก็ทำเหมือนที่เคยทำสิ!นั่งรออยู่ข้างนอก รอให้ฉันเสร็จก่อน!”

คยองซูตะโกนกลับไป เขานึกยังไงไม่รู้ ถึงได้ประชดออกไปแบบนั้น จงอินที่ตกใจกับเสียงของชานยอลก็หยุดทำทุกอย่างทันที

“ออกไปเถอะนะคยองซู…”

“อย่าไปนะ…ทำให้เสร็จก่อนสิ อย่าค้างไว้แบบนี้”คยองซูคว้าแขนจงอินที่กำลังจะลุกขึ้นจากตัวเขาเอาไว้ แต่จงอินเองก็เป็นฝ่ายฉุดให้คยองซูลุกขึ้นนั่งและใส่เสื้อผ้าให้

“ฉันว่าเขาน่าจะช่วยนายได้มากกว่าที่ฉันช่วยที่ปลายเหตุแบบนี้นะคยองซู”

เสียงเคาะประตูดังสั่น ตามด้วยเสียงโครมดังมากๆ เหมือนชานยอลพยายามจะถีบประตูเข้ามา

“นายจะคืนดีกับแฟนนายอยู่แล้วนี่ปาร์คชานยอล!! จะมาสนใจคนอย่างฉันทำไม??”คยองซูตะโกนกลับไป จงอินนั่งมองหน้าคยองซู ดวงตากลมโตที่เอ่อไปด้วยน้ำตา แคร์คนๆนั้นมากขนาดนั้นเลยเหรอ คยองซู

“คืนดีอะไร?? ฉันบอกนายตอนไหนว่าจะคืนดีกับแบคฮยอน  นายคิดไปเองนะ”

จงอินถอนหายใจ พลางเดินไปเปิดประตูห้อง ในขณะที่ชานยอลตั้งท่าจะทุบประตูอีกรอบ

“นายเข้าไปคุยกับคยองซูด้วยตัวเองเถอะ…ฉันว่า มันดีกว่ามายืนตะโกนแบบนี้”

ชานยอลมองหน้าจงอิน นั่นมันคนที่เขาเจอที่สวนสนุก ที่ห้องน้ำ…. ชานยอลเบี่ยงตัวเข้าไปในห้อง เห็นคยองซูนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชานยอลรีบตรงเข้าไปนั่งอยู่ต่อหน้าคยองซูทันที

“คยองซู…ฉันไม่ได้คืนดีกับแบคฮยอนนะ อย่าคิดมากสิ ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหน จะช่วยนายจนกว่านายจะอาการดีขึ้น อย่าคิดไปเองสิ”ชานยอลพูด ในขณะที่เสียงประตูหน้าคอนโดฯเปิดและปิดลง จงอินออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว

“ช่วยเพราะสงสารเท่านั้นใช่มั้ย?”

คยองซูใช้ดวงตากลมใสเหลือบมองชานยอล ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา ชานยอลส่ายหน้าช้าๆ

“ถ้าฉันบอกว่า ในตอนนี้ฉันไม่ได้คิดเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องนาย วาดฝันถึงวันที่จะได้เห็นนายมีความสุข มีรอยยิ้มอย่างแท้จริง และมีฉันเคียงข้าง…ถ้านั่นมันเป็นแค่ความสงสาร ฉันว่ามันก็มากเกินไปสำหรับคำว่าสงสารนะคยองซู…”

คำพูดแสนจะซับซ้อน แต่คยองซูก็เข้าใจได้ดี ดวงตากลมโตยิ่งมีน้ำตาเอ่อล้นมากขึ้น จนไหลลงมาอาบแก้มใส ชานยอลมองตามหยดน้ำตาบนแก้ม ก่อนจะใช้มือลูบคราบน้ำตาออกอย่างอ่อนโยน คยองซูเอื้อมมือมากุมมือหนาที่ประคองแก้มของเขาเอาไว้ รู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆในใจ

ชานยอลสัมผัสได้ว่ามือของคยองซูสั่น และลมหายใจสั้นๆถี่ๆของคยองซู

“เมื่อกี้ขอโทษนะที่มาขัดจังหวะ…แต่ฉันไม่อยากให้นายนอนกับใครอีกแล้วคยองซู…”

“งั้นรับผิดชอบฉัน….”คยองซูคุกเข่าและโน้มตัวเข้ามากระซับข้างหูชานยอล “นอนกับฉัน…แล้วฉันจะไม่นอนกับใครอีก….”

 

ความกังวลต่างๆนานาที่ผมมีในใจมันหมดไปแล้ว เรื่องของแบคฮยอนไม่ค้างคาใจผมอีก

และคงไม่มีเหตุผลใดอีกแล้ว ที่จะปฏิเสธคยองซู

 

“สัญญานะ…แล้วก็สัญญาว่าจะพยายามรักษาให้หายด้วย”

คยองซูพยักหน้า พลางก้าวขาคร่อมหน้าตักของชานยอล แล้ววาดแขนรอบคอชานยอล และกำลังจะกดท้ายทอยชานยอลลงมาเพื่อให้รับจูบ แขนแข็งแรงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของชานยอลค่อยๆกอดเอวคยองซูเอาไว้ และฉับพลัน เขากอดแล้วเหวี่ยงคยองซูให้นอนราบลงไปกับเตียง

 

ชานยอลกดจูบริมฝีปากอิ่มนุ่มของคยองซูอย่างดูดดื่ม เขาจะทำทุกอย่างหใคยองซูรู้สึกมีคุณค่า ทำให้คยองซูรู้สึกว่าเขาต้องการคยองซูมากที่สุด ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของคยองซูสองลิ้นกระหวัดเกี่ยวกัน สองริมฝีปากบดเบียดกันราวกับหิวกระหาย มือของคยองซูเลื่อนลงมาปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของชานยอล  แล้วใช้นิ้วเท้าเกี่ยวเอวกางเกงลงโดยมีมือของชานยอลเองที่ช่วยดึงลงมาด้วย

มือหนาถลกเสื้อยืดของคยองซูขึ้น แต่ยังไม่ถอดออก ริมฝีปากได้รูปถอนริมฝีปากออก แล้วเลื่อนลงมาจูบไซ้ที่ลำคอ ร่างกายของเขาก็เบียดเสียดสีกับร่างกายที่บิดไปมาของคยองซูเหมือนกัน

“สาบานนะว่าไม่เคยมีเซ็กส์…”เสียงถามของคยองซูหอบกระเส่า ชานยอลไม่ตอบอะไร และไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอด้วย ริมฝีปากอุ่นจูบทิ้งท้ายก่อนจะลากลิ้นเลียลงมาถึงยอดอกที่ตั้งแข็งเพราะการปลุกเร้า ลิ้นอุ่นเขี่ยคลึงดูดดึงจนมีเสียง คยองซูยิ่งหอบหายใจหนักหนวงและกอดหัวของชานยอลเอาไว้ พลางแอ่นอกรับริมฝีปากที่ดูดคลึงยอดอกของเขา ส่วนมือหนานั้นเลื่อนลงมาถอดกางเกงของคยองซูออกแล้วโยนทิ้งไปนอกเตียง

ชานยอลละริมฝีปากออกจากยอดอกน่าลิ้มลอง และชันตัวขึ้นตรง ก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออกบ้าง ร่างกายกำยำสมส่วนของเขายิ่งทำให้คยองซูหายใจหนักหน่วง นอนบิดเร่าๆอย่างร้องขอ…มือเล็กเอื้อมมาสัมผัสหน้าอกมีกล้ามของชานยอล เพียงสัมผัสเบาๆ ชานยอลก็ครางเสียงทุ้มอยู่ในลำคอแล้ว

คยองซูเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง แล้วหยิบถุงยางออกมา ชานยอลดึงถุงยางมาจากมือของคยองซู แล้ววางไว้บนเตียง ก่อนจะเลื่อนตัวลงมา ยกขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่าแกร่งของเขา แล้วก้มลงใช้ปากปลุกเร้า

ทันทีที่ลิ้นอุ่นร้อนสัมผัสแก่นกายของคยองซู ร่างเล็กก็แอ่นสะโพกเข้าหาปากชานยอลทันที มือเล็กจับหัวของชานยอลเอาไว้ ในขณะที่ชานยอลโยกหัวเข้าออกดูดดึงเป็นจังหวะจนคยองซูแทบหมดเรี่ยวแรง

ดีเหลือเกิน….ไม่มีใครเคยทำให้เขาแบบนี้เลย…

 

สะโพกนิ่มเคลื่อนเข้าหาปากของชานยอลอย่างช้าๆ ในขณะที่ชานยอลใช้ทั้งปากทั้งมือปรนเปรอให้คยองซู

“อ๊ะ…ชานยอล เร็วอีก เร็วอีก”มือเล็กเริ่มจิกขยุ้มผมของชานยอลอย่างควบคุมไม่ได้ จู่ๆชานยอลก็ถอนริมฝีปากออก แล้วเอาขาของคยองซูออกจากบ่าของตน

ร่างเล็กนอนบิดกายไปมา อีกนิดเดียวจะเสร็จแล้ว แต่จู่ๆชานยอลก็หยุด…

“หยุดทำไม…ทำต่อสิ…”

ชานยอลฉุดคยองซูให้ลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง ส่วนตัวเองก็ยืนขึ้น จนแก่นกายที่ชูชันจ่ออยู่ตรงปากยองซู ดวงตาโตเหลือบขึ้นมองชานยอลที่ก้มลงมองเขาอยู่ ก่อนจะกลืนกินของของชานยอลเข้าไปทีละนิด จนมันชนเพดานปากด้านใน

ชานยอลก้มลงมองพลางเสยผมคยองซูขึ้น เพื่อจะได้มองชัดๆ คยองซูที่มีความสุขทั้งบนเตียงและชีวิตจริง เขาจะทำให้มันเป็นจริงให้ได้…

ความคิดดีๆผ่านมาได้เพียงชั่ววูบเดียว ชานยอลก็ห้ามใจเอาไว้ไม่ได้อีก เขาประคองหัวของคยองซูเอาไว้ แล้วขยับสะโพกพลางกดหน้าของคยองซูให้เข้ามารับกับจังหวะของเขา มือเล็กจิกต้นขาของชานยอลไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหล่าเชิดขึ้น ตัวเขาใกล้จะเกร็งแล้ว ชานยอลรีบเอาของของเขาออกจากปากคยองซูทันที แล้วฉุดคยองซูให้ลุกขึ้นยืนหมุนตัวให้หันหน้าชิดกำแพงหัวเตียง เอามือเท้าหัวเตียงเอาไว้ มือของเขาตรึงสะโพกนุ่มเอาไว้ ก่อนจะฉีกซองถุงยาง และสวมมันอย่างรวดเร็วด้วยมืออันสั่นเทา ก่อนจะจับแก่นกาย สอดเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง

ชานยอลอดรนทนไม่ได้ เขาค่อยๆสอดเข้าไปไม่ได้ ทันทีที่พอจะเข้าไปได้ เขาก็กอดรัดเอวเล็กไว้แน่นแล้วกระแทกสะโพกเข้าไปทันที คยองซูกรีดร้องเสียงหลงเพราะสิ่งแข็งขืนที่กระแทกเข้ามาฉับพลัน จากนั้นสะโพกแกร่งก็กระแทกเข้าออกรัวเร็วไม่เว้นระยะให้คยองซูหยุดกรีดร้องได้เลย

“อ๊ะๆๆๆๆ”

คยองซูครางสั่นไปตามจังหวะที่กระแทกเข้ามา ยิ่งกระแทกก็ยิ่งกอดรัดแน่นจนแทบจะอุ้มคยองซูลอยขึ้นมาเหมือนตุ๊กตา กล้ามเนื้อขาและสะโพกของชานยอลขึ้นชัดเจนจากการออกแรงขยับรัวเร็ว เหงื่อเริ่มไหลชุ่มร่างกาย เสียงกระเนื้อสะโพกและบั้นท้ายกระทบกันดังลั่น คยองซูจับหัวเตียงแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว

“ช้าลงหน่อยชานยอล…อ๊ะ…อ๊ะ”

ได้ตามสั่ง ชานยอลค่อยๆลดจังหวะลง และดึงแก่นกายออกจนเกือบหลุดออกมา แล้วกระแทกเข้าไปใหม่แรงๆ ทุกครั้งที่กระแทกเข้า คยองซูก็จะครางออกมา

ชานยอลทนไม่ไหวแล้ว เขากลับมาเร่งจังหวะจนคยองซูกรีดร้องเสียงดัง มือหนาเอื้อมมาข้างหน้าช่วยปรนเปรอคยองซูจนยืนแทบไม่ไหว ต้องงอตัวเท้าแขนกับหัวเตียงปล่อยให้ชานยอลกระแทกจนถึงจุดสุดยอด

ร่างสูงครางลั่นและตัวเกร็งกระตุก ไม่แพ้คยองซูที่ทรุดลงไปนั่งบนเตียงทิ้งตัวลงนอนกระตุกเกร็ง

ชานยอลถอดถุงยางออกแล้วมัดก่อนจะโยนทิ้งลงถังขยะ แล้วเอื้อมไปเปิดหัวเตียงหยิบซองใหม่ขึ้นมาฉีกออกแล้วใส่ใหม่ทันที คยองซูที่นอนตะแคงหอบอยู่ตรงหัวเตียงแทบตั้งตัวไม่ทัน เมื่อถูกชานยอลลากขาไปที่กลางเตียง แล้วพลิกตัวให้นอนคว่ำ ยกสะโพกแอ่นขึ้น รู้ตัวอีกทีก็ถูกสอดแก่นกายเข้ามาอย่างรวดเร็ว และกระแทกเข้ามาไม่หยุดจนร่างกายสั่นคลอน

 

ร่างกายสองร่างกายรับส่งกันได้ดี คยองซูปล่อยให้ชานยอลทำอย่างที่อยากทำ จูบเขามากเท่าที่อยากจะจูบ และสิ่งที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้ มันก็เป็นจริงขึ้นมา ชานยอลอุ้มเขาเข้าเอวลงมาจากเตียง แล้วเหวี่ยงเข้ากำแพง จูบเขาอย่างดูดดื่มในระหว่างที่ขยับสะโพกไปด้วย เขากอดคอแกร่งนั่นเอาไว้แน่น เขาชอบท่านี้ที่สุด….

“ดีมากชานยอล ดี….”

“ชอบท่านี้เหรอ?”

“ท่านี้เป็นพิเศษ…”

ชานยอลยิ้มแล้วจูบคยองซูอีกครั้งก่อนจะกระแทกชุดสุดท้าย และเสร็จถึงฝั่งฝันทั้งคู่…. ชานยอลอุ้มคยองซูไปวางไว้บนเตียง ส่วนตัวเองก็ ทรุดลงนอนข้างๆคยองซู

“ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษนะ…หลังจากนี้ ฉันอาจจะทำกับนายไม่ได้บ่อยอย่างที่นายต้องการ ขอแค่พยายามกับฉัน แล้วก็ไม่นอนกับใครอีก….”

“เหมือนผูกมัดฉันเอาไว้เลยนะชานยอล…”

คยองซูแกล้งหยอกล้อ แต่ชานยอลกลับไม่หัวเราะด้วย

“แล้วถ้าเป็นแฟนกันล่ะคยองซู…ถ้าเราเป็นแฟนกัน นายคงไม่คิดว่ามันคือการผูกมัด…”

คยองซูประคองสองข้างแก้มของชานยอลก่อนจะจูบริมฝีปากชานยอลเบาๆทีนึง

“ตกลง เรื่องเป็นแฟนกัน ส่วนเรื่องผูกมัดฉันแค่พูดหยอกเล่นนะ”

ชานยอลยิ้ม แล้วพยักหน้า

“วันนี้อยู่กับฉันทั้งวันนะ ไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้วนะรู้มั้ย?”ชานยอลจูบย้ำที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง และกอดร่างเล็กของคยองซูเอาไว้

 

เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเอง ‘ถูกรัก’ อย่างแท้จริง

ไม่ใช่หลอกตัวเองว่า เขารักเรา เหมือนที่ผ่านมา

 

=========================================

5 thoughts on “「CHANSOO」E N C H A N T E D Chapter 5

  1. อื้มมมม … ไม่รู้จะเม้นตอนนี้ยังไงเลยค่ะ 555
    ความเจ็บปวดของชานยอลในตอนที่แล้วมาถึงตอนนี้ เราได้แต่แบบโล่งอก อย่างน้อยสองคนนี้ก็คิดจะเริ่มต้นไปใหม่ด้วยกันนะ XD เป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ ชานยอลได้เจอแบคเพื่อเคลียร์เรื่องในอดีต แต่ระหว่างที่ชานยอลไปเคลียร์กับแบคฮยอนก็กลายเป็นแรงผลักให้สองคนนี้หันหน้ามาคุยเรื่องความสัมพันธ์ของกันและกันอย่างจริงจัง แล้วก็ดูจะไปได้สวยนะ
    อ่านแล้วหน้าจะไหม้ นี่เก็บกดมาตั้งแต่เรื่องที่แล้วใช่มั้ยยยย 555555
    คยองซูยังตามไม่ทันอ่ะค่ะ (คิดดูเถอะค่ะคุณผู้ชมคะ) 5555
    ตอนนี้ได้แต่สงสัยว่าหลังจากชานยอลตั้งคำถามกับน้าอินซองไป กลับมาน้าอินซองจะว่ายังไงถ้าชานยอลกับคยองซูตัดสินใจจะไปด้วยกันแล้ว ได้แต่หวังให้ดราม่าน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ *ฮา*
    คยองซูตอนนี้ถือว่าได้เยียวยาหัวใจตัวเองจริงๆ พอมีคนที่หวังดีเข้ามา แล้วคยองซูก็ได้รับสิ่งๆนี้ไว้ เราเหมือนจะเช้าใจความรู้สึกที่ได้รับการเติมเต็มของคยองซูเลย ไม่ใช่แค่ชานยอลที่ดีกับคยองซูแต่คุณแม่ของชานยอลก็ยอมรับความเจ็บป่วยนี้โดยไม่มีอคติ มันเหมือนคนที่ได้เจอที่พักใจของเขาจริงๆนะคะ หลังจากต้องเคว้งคว้างเจอพายุด้วยตัวคนเดียวอยู่นาน

  2. ไม่รู้่ว่าไปอยู่ไหนมา พึ่งมาเจอเรื่องนี้วันนี้ เลยอ่านรวบยอด ตั้งเเต่ต้นจนถึงตอนนี้เเล้วก็มาเม้นต์ทีเดียว 5555 เราชอบตัวละครทุกตัวเลยอะ ดูมที่มที่ไป ดูมีเหตุผล เหตุการณ์มันเชื่อมกันได้ฟีลดี 555 เเล้วก็โครงเรื่องที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เราว่าเราชอบนะมันดูไม่เยอะ ไม่เน้นnc เน้นเนื้อหาของเรื่องจริงๆ เราว่าเรื่องนี้ดำเนินไปสนุกอะ มันทำให้เห็นถึงถึงความรู้สึกจริงๆๆของตัวละครตอนตอนนั้นเลยอะ ติดตามต่อค่ะ สู้ๆๆนะคะ

  3. ไม่ต้องหลอกตัวเองว่าเค้ารักแล้ววววว ยินดีที่ได้รู้จักการถูกรักนายจะต้องมีความสุขให้มากๆนะคยองซูววววววว พิชานจัดหนักจัดเตมอดมานานนนนนนโอ้ยยยย5555555 แอบตลกตอนคยองโดนแก้งให้ค้างเบามีได้ตามสั่งด้วยอ่ะอิอิ นี่นึกว่าพิชานจะหยุดมะได้ซะแร้วงื้ออออ เค้าเป็นแฟนกันแล้วววววฝากคยองซูด้วยนะชานยอลลลลลลตั้งแต่ต้นนายมีแต่ความหวังดีให้คยองแตกต่างจากพวกที่รู้และหวังแต่ตักตวงจากคยองขอบคุนนะที่เข้ามาในชีวิตช่วยปกป้องช่วยสอนคยองให้รู้จักคำว่ารักทีนะงื้ออออออ><

  4. ดีงามพระราม8มาก โคตรเด็ดดดดดดด ชอบตอนนี้5555555555 ชานยอลแบบเหมือดอดมานานพอได้ปลดปล่อยก็ทำสะคยองเหนื่อยตาย5555 แต่เป็นการปลดปล่อยด้วยความรักอะไม่ใช่ตัญหา พอนางสองคนเป็นแฟนกันก็ดีนะเชียร์ๆ

  5. โอยย ปวดเฮดเลย 5555ไม้รู้จะเม้นอะไรก่อนดี งื้ออ พี่ชานขอคยองเป็นแฟน พี่ชานคือแบบ เป็นคนดีไปไหม อันนี้คือยิ่งกว่ารักแบบชู้สาวอ่ะ รักแบบอยากช่วยอีกฝ่ายให้หายเป็นปกติเลยอ่ะ อมกก พี่ชานมาโปรดที่แท้ T T ขอบคุณพี่ชาน
    ตอนนี้แอบสวีท ทำไมอ่านแล้วเขินพิชานหนักมากก พิชานน่ารักมากพาคยองซูไปเที่ยว เหมือนเดทเลยนะนี่ ชานยอลเหมือนแสงสว่างของคยองซูเลย
    อาการคยองนี่แบบ ไม่ไหวแล้ว นี่ขนาดอ่านไปยังแบบ ไม่ไหวแล้ว ทนคยองซูไม่ไหวจริงๆ มันมากก มันมากจีๆ ฮรือออ เอาใจช่วยพี่ชานดูแลคยองแทนละกัน T T อ่านไปปวดตับไปกะคยอง ฮืออ คอมเม้นอาจจะดูไบโพลานิดนุงนะ 5555555 เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
    Nc คือแบบ พี่ชานละมุนมากกก เนี่ยคืออินกะอาการป่วยคยองจนแบบnc กลายเป็นแอบดราม่าไปเลย T T มันมากมายจริงๆ เคยอ่านแต่ฟิคที่คยองโดนกระทำแบบไม่มีทางเลือก แต่นี่คือมันยิ่งกว่านั้น ฮือ เศร้าาาา T T ขอให้ตอนต่อๆไปดารคน้อยลงๆ อ่านไปแบบปวดใจมากทุกครั้งที่คยองไปอุซ่าๆกะใครก็ได้ T T ต่อไปนี้ขอเปนพิชานคนเดียวนะคยอง สัญญานะะ ฮรืออ อินจัดด55555

Leave a comment